อัพเดทล่าสุด! ปฏิทิน และรูปแบบการเรียนการสอน รวมถึงตารางสอบเข้าม.1-ม.4 ปีการศึกษา 2563 จาก “สพฐ.” หลังเลื่อนวันเปิดเทอม 2563 เป็น 1 ก.ค.
วันนี้ (30 เม.ย.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้เป็นประธานในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ครั้งที่ 4/2563 พร้อมมอบนโยบายเรื่องการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ผ่านระบบการประชุมทางไกล Video Conference โดยมี นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ร่วมชี้แจงในประเด็นดังกล่าว ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 กระทรวงศึกษาธิการ
นายณัฏฐพล กล่าวว่า ได้มอบนโยบายในการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ให้แก่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจ เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งหากสถานการณ์ดีขึ้น ก็สามารถจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ หากทำไม่ได้ก็จะจัดการเรียนการสอนแบบทางไกลแทน
ช่องทางแรก คือ “การเรียนผ่านทีวีดิจิทัล” ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับ กสทช. ในการจัดสรรช่องทีวีที่จะใช้เป็นทีวีเพื่อการศึกษา ช่องทางต่อมา คือ “การเรียนในระบบทางไกลผ่านดาวเทียม” โดยความอนุเคราะห์ของมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (DLTV) สำหรับชั้นอนุบาลถึงชั้นม.3
และอีกช่องทาง คือ “การเรียนแบบออนไลน์” สำหรับนักเรียนชั้นม.4-6 เป็นการเรียนแบบสองทาง ครูสามารถสื่อสารกับนักเรียนได้ ซึ่งจากการสำรวจพบว่านักเรียนชั้นม.ปลายกว่า 90% มีอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีการทดลองการเรียนการสอนทางไกล ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม – 30 มิถุนายนนี้
“ในปัจจุบันเรายังไม่คุ้นเคยกับการเรียนการสอนทางไกล ถือว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เรียนรู้และปรับตัวเข้ากับการเรียนการสอนในโลกยุคใหม่ โดยเบื้องต้นเราได้วางแผนการเรียนการสอนใน 3 ช่องทาง ซึ่งเมื่อถึงเวลาเปิดภาคเรียนหากพื้นที่ไหนมีความพร้อมก็สามารถจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ โดยต้องอยุ่ภายใต้มาตรการของกรมควบคุมโรค” รมว.ศธ. กล่าว โดยสามารถรับชมผ่านช่องทาง www.obectv.com และ www.youtube.com/obectvonline
สำหรับประเด็นเรื่อง “วันหยุด” นั้น รมว.ศธ. ได้กล่าวว่า
“ในเรื่องที่ไม่มีวันหยุดระหว่างภาคเรียนที่ 1 นั้น ทางโรงเรียนสามารถดูชั่วโมงการสอน หรือจัดตารางเรียนที่เหมาะสม เพื่อให้มีวันหยุดภาคเรียนได้”
ทั้งนี้ ในส่วนของ กำหนดการรับสมัครนักเรียน ปีการศึกษา 2563 สำหรับนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 จะเปิดรับสมัครในวันที่ 3-12 พฤษภาคม 2563 โดยหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะมีกำหนดดังนี้
การรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1
– สอบคัดเลือก : 30 พฤษภาคม 2563
– ประกาศผล : 3 มิถุนายน 2563
– รายงานตัว : 6-8 มิถุนายน 2563
การรับสมัครนักเรียนชั้น ม.4
– สอบคัดเลือก : 31 พฤษภาคม 2563
– ประกาศผล : 4 มิถุนายน 2563
– รายงานตัว : 9-11 มิถุนายน 2563
โดยการรายงานตัว อาจมีความยืดหยุ่นได้ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 15 มิถุนายน 2563
หากโรงเรียนใดที่มีนักเรียนมาสมัครเกินกว่าแผนการรับนักเรียนที่กำหนดไว้ ให้ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียน ร่วมกันกำหนดแนวทางในการคัดเลือกหรือสอบคัดเลือกสำหรับนักเรียนกลุ่มทั่วไปและวิธีการจับฉลากสำหรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ
โดยทุกโรงเรียนจะต้องดำเนินการมอบตัวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2563 เพื่อให้หลังจากนั้นเด็กที่สอบไม่ได้ต้องมีที่เรียนจึงต้องมีการเตรียมการอีก 15 วัน เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งจะมีการทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งภายในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้
สำหรับวิธีการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาของ สพฐ. จะใช้วิธีการสอบคัดเลือกโดยการจัดสอบ 100% ไม่มีการสอบทางออนไลน์เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตที่จะเกิดขึ้น และจัดสอบให้แล้วเสร็จภายในครึ่งวัน (9.00-12.00 น.)
ส่วนการจัดห้องสอบและอาคารสถานที่ ในกรณีที่จัดสอบโดยใช้ห้องเรียน ให้จัดสอบไม่เกินห้องละ 20 คน และห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร และในกรณีที่จัดสอบโดยใช้อาคารอเนกประสงค์ให้ใช้วิธี Social Distancing เตรียมการจัดสถานที่ภายใต้แนวปฏิบัติการของกรมควบคุมโรค และให้นักเรียนทุกคนที่เข้าสอบสวมหน้ากากอนามัย มีมาตรการควบคุมก่อนเข้าห้องสอบ รวมถึงจัดให้มีห้องเพื่อให้นักเรียนรอก่อนเข้าสอบ และมีการเตรียมห้องไว้สำหรับนักเรียนที่เดินทางมาสอบยังสนามสอบหลักไม่ได้ด้วย
พร้อมกันนี้ ยังให้มีการกำหนดแผนผังอาคารสอบแบ่งตามกลุ่มสาระวิชาอย่างชัดเจนและแจ้งให้ผู้ปกครองทราบก่อนวันสอบคัดเลือก เและขอความร่วมมือผู้ปกครองมาส่งและมารับนักเรียนตามกำหนดโดยไม่พักคอย หากจำเป็นต้องพักคอย ต้องมีการคัดกรองและพักคอยในจุดที่โรงเรียนจัดไว้ให้
รวมถึงเมื่อเสร็จสิ้นการสอบแล้ว อนุญาตให้นักเรียนออกจากห้องสอบทีละห้องพร้อมกับเว้นระยะห่างระหว่างการเดิน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการเว้นระยะห่างภายใต้สถานการณ์โรคโควิด-19